วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทความที่ 2 Computer Assisted Language Learning and English Language Teaching in Thailand: Overview

CALL 
(Computer-Assisted-Language-Learning in each phrase)

- Behaviorist CALL 
ถูกนำมาใช้ในปี 1950 และเป็นที่รู้จักในปี 1960 เมื่อนำมาใช้ในการสอนภาษา (audio-lingual method) กันอย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่โปรแกรม CALL นำมาฝึกทักษะต่าง ๆ ในภาษา

Communicative CALL
ต่อมาโปรแกรม CALL มีการพัฒนาโปรแกรมในปลายปี 1970 ถึงต้นปี 1980 ในส่วนนี้จะเน้นการใช้ CALL มากว่าที่จะเน้นวิเคราะห์รูปแบบภาษา ตามที่ Warschauer (1997) เคยทำไว้ก่อนหน้าคือ แบ่งนักเรียนที่เก่งและนักเรียนที่อ่อนทักษะทางภาษาโดยการใช้แบบฝึกหัด แต่จะต่างกันตรงที่คอมพิวเตอร์จะแบ่งเนื้อที่ใช้สอนสำหรับนักเรียนเองจึงใช้ไวยากรณ์มาสอนและอนุญาติให้นักเรียนคำตอบด้วยตัวเอง คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นที่จะช่วยการต่อยอดและการเขียนของนักเรียนผ่านเกมการแสดงบทบาทสมมุติ

Integrative CALL
การบูรณาการ CALL เริ่มต้นในปี 1990  เป็นรูปแบบการบูรณาการสอนภาษาในการติดต่อสื่อสารรวมทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน (ฮับบาร์ด, 2009) 
ในขั้นตอนนี้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นเสมือนเครื่องมือในการเรียนการสอนเนื้อหาและช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ภาษาได้จริง ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่ิอกลางในการเรียนการสอนฝึกทักษะภาษาให้แก่นักเรียน เป็นอีกหนึ่งที่ช่องทางที่นักเรียนสามารถศึกษานอกห้องเรียนได้ ทั้งนี้ควรที่จะให้นักเรียนได้เรียนรู้วีธีการใช้สื่อเหล่านี้มากกว่าแค่การให้นักเรียนไปเรียนในห้องแล็บภาษาแค่สัปดาห์ละครั้ง



Trends in educational technology

ในปัจจุบันรัฐบาลมีการใส่ใจและพยายามที่สนับสนุนให้นำสื่อ ICT มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนของนักเรียนไทยมากยิ่งขึ้น โดยเน้นที่หลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกนำมาใช้ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ELT) เช่นการเรียนรู้ด้วยตนเอง, การเรียนภาษาอังกฤษทั่วไปเช่นเดียวกับภาษาอังกฤษเชิงวิชาการและเจาะจงจุดประสงค์การเรียนรู้ (Wongsothorn et al., 2003) ถึงแม้ว่ารัฐบาลไทยจะพยายามปรับปรุงคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนไทยโดยการนำ CALL มาบูรณาการสอนในคาบวิชาภาษาอังกฤษ แต่ก้อยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะนักเรียนไทยมักจะใช้ประโยชน์ของอินเตอร์ไปในทางบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเล่นเกมออนไลน์ และยังข้อจำกัดในการใช้ CALL และ อินเตอร์เน็ตในการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ด้วยเหตุนี้ CALL จึงเป็นได้แค่โปรแกรมช่วยสอนภาษาในบางโอกาสเท่านั้น เช่น 

- การสอนและฝึกปฎิบัติทักษะทางด้านภาษา (เช่น ทักษะการฟังลแะการพูด)
- การสาธิต การเรียนการสอนแบบสาธิตโดยคอมพิวเตอร์เป็นตัวช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกคิดและเรียนรู้ด้วยตนเอง 
- สร้างสถานการณืจำลอง เป็นการสอนที่สนับสนุนให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์ ฝึกทักษะการอภิปรายและฝึกความสามารถในการเขียนของนักเรียน โดยจะฝึกให้นีกเรียนได้แก้ปัญหาจากสถานการณ์จริง ๆ
- การใช้เกมส์ 
- การทดสอบ

ถึงแม้ กิจกรรมดังกล่าวจะมีในโปรแกรมออนไลน์ต่าง ๆ อีกมากมายรวมทั้งการเรียนรู้บนเว็บไซต์ นอกจากในโปรแกรม CALL แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนภาษาอังกฤษไม่เหมาะสมที่จะเรียนหรือสอนผ่านระบบออนไลน์เหล่านั้น


The principles and factors for applying 

technology into education


เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้สำหรับการเรียนการสอน เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง สอนด้วยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น  คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนำเอาเทคโนโลยีรวมกับการออกแบบโปรแกรมการสอน มาใช้ช่วยสอนภาษา ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน CAI ( Computer - Assisted Instruction ) หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ CALL (Computer-Assisted-Language-Learning) การจัดโปรแกรมการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของสื่อประสม (Multimedia) ซึ่งหมายถึงนำเสนอได้ทั้งภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนนี้เหมาะกับการศึกษาด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบ กับบทเรียนได้ตลอด จนมีผลป้อนกลับเพื่อให้ผู้เรียนรู้ บทเรียนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจในเนื้อหาวิชาของบทเรียนนั้นๆ


What is the study like?

การใช้ CALL ในการช่วยสอนภาษาเป็นการให้นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังได้ทำแบบฝึกหัดพร้อมกับรับฟีดแบ็กจากการการทำแบบฝึกในตัวโปรแกรมอีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น